ไม่อยากท้องผูก ต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทำลาย โพรไบโอติก

โพรไบโอติก เป็นจุลินทรีย์ดีที่มีชีวิตอยู่ในลำไส้ และช่วยสร้างประโยชน์ให้กับร่างกาย เนื่องจากจุลินทรีย์ดี หรือโพรไบโอติก ช่วยเพิ่มแบคทีเรียดี ทำให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ ส่งผลให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ไม่มีปัญหาท้องผูก 

โดยอาการท้องผูก คือ อาการที่ถ่ายไม่ออก หรือมีความถี่ในการถ่ายน้อยกว่าปกติ รวมถึงอาการอุจจาระแข็งที่ต้องใช้แรงเบ่งมาก และการถ่ายอุจจาระปนเลือด ล้วนเป็นอาการท้องผูกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถนำไปสู่โรคร้ายแรงได้ 

อย่างไรก็ตาม อาการท้องผูกมีวิธีการแก้ไขด้วยการรับประทานอาหารที่มี โพรไบโอติก ช่วยเรื่องการขับถ่าย และควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมร่วมด้วย วันนี้ Glory จึงจะพาทุกคนมาสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำลาย โพรไบโอติก ในร่างกาย และส่งผลให้ระบบขับถ่ายขัดข้อง หากพร้อมแล้ว เราไปดูกัน

เปิดพฤติกรรมทำลาย โพรไบโอติก เสี่ยงพบปัญหาท้องผูก

โพรไบโอติก เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ดังนั้นปริมาณจึงสามารถลดลง และเพิ่มจำนวนขึ้นได้ด้วยอาหาร รวมถึงการเกิดปฏิกิริยาเคมีในร่างกายยังทำให้จำนวน โพรไบโอติก ในลำไส้ลดลง

ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังพฤติกรรม และการรับประทานอาหาร เพื่อรักษาสมดุลของโพรไบโอติกในลำไส้ เพื่อให้ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ทั้งยังช่วยลดปัญหาท้องผูก โดยพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการทำลาย โพรไบโอติก มีดังนี้

• การทานยาปฏิชีวนะมากเกินจำเป็น

การใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) ส่งผลให้รูปแบบของจุลินทรีย์เปลี่ยนไป ทั้งชนิด เเละความหลากหลาย โดยส่งผลต่อโพรไบโอติกจุลินทรีย์ในลำไส้ อีกทั้งยาปฏิชีวนะยังทำให้จุลินทรีย์ที่ก่อโรคเจาะเข้าไปยังเซลล์เยื่อบุผิว

ทำให้เกิดการอักเสบ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคในระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน และควรใช้อย่างเหมาะสม พร้อมหมั่นดูแลสุขภาพ เพื่อจะได้ไม่ต้องรับประทานยาบ่อย ๆ 

• การดื่มและรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง

หากร่างกายมีน้ำตาลจำนวนมาก จะทำให้โพรไบโอติกลดลง และในทางกลับกันจะทำให้แบคทีเรียที่เป็นพิษต่อร่างกายเพิ่มขึ้น เนื่องจากน้ำตาลเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียเหล่านี้ ส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรค เช่น เบาหวาน อ้วนลงพุง เป็นต้น

• รับประทานอาหารแปรรูป 

อาหาแปรรูป หรืออาหารที่มีการตัดแต่ง มักจะมีสารปนเปื้อน และส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งหากบริโภคบ่อย ๆ จะเกิดการสะสมในร่างกาย และส่งผลต่อสุขภาพในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องการขับถ่าย เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้โพรไบโอติกในร่างกายลดลง และเป็นผลเสียต่อระบบขับถ่าย

• การแพ้อาหารแฝง

เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร และลำไส้มากกว่าระบบภูมิคุ้มกัน แต่จะไม่แสดงอาการในทันที และไม่มีความรุนแรง โดยการเกิดภูมิแพ้อาหารแฝงจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารบางชนิดได้

เช่น การแพ้แลคโตส การแพ้กลูเตน การแพ้น้ำตาล เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้ขาดสมดุล จึงก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบลำไส้ และการขับถ่าย

• การไม่รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง

พรีไบโอติก คือ แหล่งอาหารของโพรไบโอติก ได้แก่ อาหารที่มีกากใย และไฟเบอร์สูง เช่น ผักใบเขียวต่าง ๆ ซึ่งหากไม่รับประทานอาหารเหล่านี้ โพรไบโอติก ก็จะไม่มีแหล่งอาหาร และทำให้ลดจำนวนลงไปเรื่อย ๆ จนเกิดความไม่สมดุลกับแบคทีเรียที่เป็นพิษ และอาจเกิดผลกระทบต่อร่างกายตามมาได้

• การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง 

อาหารที่มีไขมันมักมาพร้อมกับน้ำตาลสูง โดยน้ำตาลทำให้แบคทีเรียที่ไม่ดีในทางเดินอาหารเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแบคทีเรียที่ไม่ดีนี้มีโอกาสสร้างสารก่อมะเร็ง หรือเป็นตัวร่วมในการก่อมะเร็งได้

นอกจากนี้ น้ำตาลยังเป็นอาหาร และแหล่งพลังงานแก่เซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะสารในกลุ่มไนโตรเจน และอะโรมาติคเอมีน จากอาหารประเภทไขมันก็เป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่

• การรับประทานอาหารไม่หลากหลาย

การรับประทานอาหารซ้ำ ๆ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน และทำให้แหล่งอาหารของโพรไบโอติกลดลงไปด้วย อีกทั้งการรับประทานอาหารเดิม ๆ อาจทำให้มีสารพิษตกค้าง และสะสมในร่างกาย ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคในลำไส้ เช่น อาการท้องผูก เป็นต้น

พาสำรวจ ! 4 อาหารเพิ่มสาร โพรไบโอติก แก้อาการท้องผูก 

• โยเกิร์ต

ในโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิต คือ โพรไบโอติก ซึ่งได้จากการนำนมไปหมัก และมีการปรุงรสชาติต่าง ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกรับประทานอย่างหลากหลาย โดยโพรไบโอติกในโยเกิร์ต ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้เพิ่มขึ้นจนเกิดความสมดุล และส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานปกติ ไม่มีอาการท้องผูกมากวนใจ

• กิมจิ

เป็นอาหารเกาหลีที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย เพราะมีรสชาติถูกปาก และเข้าได้กับอาหารไทย ซึ่งเป็นอาหารที่มีประโยชน์ในเรื่องการขับถ่าย เพราะมีกรดแลกติกแอซิดแบคทีเรีย แลกโตบาซิลัส และจุลินทรีย์หลายชนิด ซึ่งเป็นโพรไบโอติกที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับลำไส้ และส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร

• ชีส

มอสซาเรลล่าชีส เชดด้าชีส และคอตเทจชีส เหล่านี้คือชีสที่พบโพรไบโอติกอยู่จำนวนมาก เป็นประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร เพราะช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ อีกทั้งชีสบางชนิดยังสามารถรับประทานเพื่อลดน้ำหนักได้อีกด้วย

• แตงกวาดอง

แตงกวาดอง และผักดองต่าง ๆ เป็นอาหารหมักดองที่มีเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีวิตามินซีมากมาย อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานแตงกวาดองโดยไม่มีอาหารอย่างอื่น เพราะอาจจะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป

และทั้งหมดนี้คือข้อแนะนำที่ช่วยรักษา และเพิ่ม โพรไบโอติก ในร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องผูก และอาการไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ที่มีสาเหตุมาจากการทำงานผิดปกติของลำไส้ โดยการเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่ม โพรไบโอติก 

ทั้งนี้หากใครต้องการเสริมสร้าง โพรไบโอติก ทาง Glory มีผลิตภัณฑ์ Probiotic Veggy Plus ซึ่งเป็นโพรไบโอติกผสมกับไฟเบอร์อยู่ในรูปแบบของแคปซูล  ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น รวมถึงช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยหากใครสนใจสามารถ สอบถามเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อราคาพิเศษคลิก และสามารถติดต่อเราได้ที่

Line: @GloryofficialTH

Shopee: Glory Official TH

Lazada: Glory